ตกแต่งห้อง หลายคนอาจเคยเห็นคำว่า “มินิมอล” ผ่านตาไปมาในชีวิตประจำวันทั้งสไตล์การถ่ายภาพ การแต่งตัวจนถึงการสร้างบ้าน ทำให้ใครหลายคนเกิดความสงสัยว่าแท้จริงแล้ว มินิมอลคืออะไร ทำไมถึงไปโผล่ในทุกที่
“Less is more” คือคำจำกัดความของ มินิมอล (Minimalism) ที่อธิบายความ “น้อยแต่มาก” ได้เห็นภาพมากที่สุด มินิมอลเป็นคอนเซปที่ครอบคลุมในทุกที่ตั้งแต่แฟชั่นเสื้อภาพ สถาปัตยกรรม จนไปถึงการดำรงชีวิต ต้นกำเนิดของแนวคิดมินิมอล ไม่มีบ่งชี้แน่ชัดว่ามาจากที่ไหน มีเพียงหลักการที่ยึดมั่นอย่างชัดเจน หลักการที่ว่าคือการจัดการกับความสำคัญ โดยละทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต เหลือแค่เพียงสิ่งที่สำคัญเท่านั้น ทำให้สิ่งของรอบตัวหรือการดำเนินชีวิตเหลือน้อยลงแต่มากไปด้วยความหมาย
เมื่อการจัดการกับความสำคัญคือหัวใจหลักของมินิมอล ดังนั้นบ้านสไตล์มินิมอลจึงเริ่มต้นจากลำดับความสำคัญภายในบ้าน สำรวจความจำเป็นของพื้นที่ โดยอิงจากการใช้สอยเป็นหลัก ถึงแม้ว่าจะเน้นการใช้งานแต่พื้นที่ภายในบ้านสไตล์มินิมอลกลับไม่แออัด เพราะภายในหนึ่งพื้นที่รวมถึงเฟอร์นิเจอร์สามารถปรับใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง รวมถึงการลดเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นออก ทำให้พื้นที่ภายในบ้านโปร่งโล่ง วันนี้น้องตี้ขอมานำเสนอการจักตกแต่งห้องสไตล์มินิมอลใน บ้าน ให้ทุกคนได้อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยครับ
Minimal Styl การตกแต่งบ้านที่กําลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ คือสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น หากแต่มากด้วยประโยชน์ รวมไปถึงการเลือกใช้งานสิ่งต่าง ๆ ตามความจําเป็นเท่านั้น ซึ่งจะถูกจัดวางอย่างมีระเบียบเรียบร้อย เอกลักษณ์ในการตกแต่งสไตล์มินิมอลนั้นมักจะมีโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อน ๆ รวมถึงการออกแบบที่มีเส้นสายตาที่ตรงและชาร์ป มีความสมดุลและความผ่อน คลาย เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่คัดสรรมาตกแต่งในบ้านสไตล์นี้ มักจะตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบถ้วน ท่ามกลางความไม่มากไม่น้อยจนเกินพอดี
การแต่งห้องนอนสไตล์มินิมอล เริ่มต้นจากจัดการเรียงลำดับสิ่งของที่ไม่จำเป็นภายในห้อง เช่น ทีวีหรือโซฟา เป็นต้น เพื่อสร้างพื้นที่ว่าง ทำให้ห้องโล่งโปร่ง จากนั้นจึงจัดวางตำแหน่งของตกแต่งภายในห้อง สีบ้านตัวอย่าง
• เตียง เตียงที่เหมาะสำหรับสไตล์มินิมอลคือ เตียงที่มีการออกแบบเฉพาะตัว มีรูปทรงที่แตกต่าง มีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลายเป็นเตียงอเนกประสงค์ ใช้วัสดุที่ทำมาจากไม้เพื่อคลุมโทนสีของห้อง ส่วนความสูงของเตียงหากห้องไหนที่เพดานตำ่ ควรลดความสูงของเตียงเพื่อเพิ่มพื้นที่ระหว่างเตียงนอนกับเพดาน ส่งผลให้ระหว่างนอนไม่รู้สึกอึดอัด
• โต๊ะข้างเตียง ในห้องนอนสไตล์มินิมอล โต๊ะข้างเตียงถือเป็นอีกหนึ่งของตกแต่งที่ช่วยให้ห้องน่าสนใจมากขึ้น โดยโต๊ะข้างเตียงสำหรับห้องนอนสไตล์นี้ ควรเลือกใช้โต๊ะที่มีขนาดเล็ก แต่สามารถเก็บของได้จำนวนมาก อาจเลือกโต๊ะที่ออกแบบโดยคำนึงถึงการแบ่งสัดส่วนในการเก็บของได้หลายประเภท เช่น ช่องเก็บเอกสารหรือช่องเก็บปากกา เป็นต้น
• ตู้เสื้อผ้า การเลือกตู้เสื้อผ้าในห้องสไตล์มินิมอล ควรเลือกตู้เสื้อผ้าที่ขนาดไม่ใหญ่จนสร้างความรู้สึกอึดอัดภายในห้อง หรือถ้าหากใครที่เสื้อผ้าจำนวนไม่มาก การเลือกใช้ราวแขวนผ้าแทนตู้เสื้อผ้าก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน
• โต๊ะทำงาน การจัดวางโต๊ะทำงานควรเลือกบริเวณมุมห้องเพื่อไม่ใช้พื้นที่มากเกินไป ในการเลือกขนาดและรูปแบบโต๊ะทำงานควรพิจารณาจากลักษณะงาน เช่น งานที่ทำเกี่ยวกับเอกสารควรมีลิ้นชักใต้โต๊ะทำงานเป็นต้น
• โต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งนอกจากการออกแบบที่แตกต่างแล้ว การเลือกโต๊ะเครื่องแป้งภายในห้องนอน สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับสไตล์มินิมอลมากขึ้น เช่น โต๊ะเครื่องแป้งแบบติดผนัง หรือการปรับใช้โต๊ะเครื่องแป้งร่วมกับโต๊ะทำงานเป็นต้น
Tips: การแต่งห้องนอนสไตล์มินิมอล ขนาดของเฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอเหมาะกับการใช้งาน โดยขนาดเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่เกินไปจะสร้างความอึดอัดให้กับห้อง ส่วนเคล็ดลับการจัดการของให้สำรวจความต้องการก่อนว่าจำเป็นต้องใช้งานสิ่งนี้ในห้องนอนไหม เช่น ทีวียังจำเป็นต้องดูในห้องนอนไหม ถ้าหากไม่จำเป็นยกออกจากห้อง แค่เท่านี้ก็มีพื้นที่โล่ง ๆ เพิ่มมาแล้ว
การจัดห้องนั่งเล่นสไตล์มินิมอลจะเน้นความเรียบง่าย ทำให้แขกรู้สึกเป็นกันเอง การตกแต่งจะเปิดพื้นที่กว้างโล่ง ทำให้สบายตาทั้งผู้อยู่อาศัยและแขกที่มาเยี่ยม โดยแนวทางการตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์มินิมอลมีดังนี้
• โซฟา ในการเลือกโซฟาสำหรับบ้านสไตล์มินิมอล เริ่มต้นจากคำนึงถึงจำนวนสมาชิกภายในบ้าน และจำนวนแขกโดยเฉลี่ยที่มาเยี่ยมบ้าน เช่น สมาชิกภายในบ้านมีจำนวนไม่มาก โซฟาควรใช้แค่ 1-2 ตัว เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้และความรู้สึกโล่งภายในห้องนั่งเล่น แต่สำหรับบ้านไหนที่ต้องการความเป็นกันเองมากขึ้น เก้าอี้ Beanbag ที่สามารถปรับรูปร่างตามสภาพผู้ใช้งาน เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
• โต๊ะกาแฟ การเลือกโต๊ะกาแฟหรือโต๊ะกลาง ควรเลือกให้ขนาดเหมาะกับโซฟา แต่ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป วัสดุที่ใช้ควรเลือกใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกสบายตาอย่าง ไม้ หรือนำหนังสือ1-2 เล่มมาวางประดับจะช่วยเสริมให้โต๊ะกาแฟมีเสน่ห์มากขึ้น
• ชั้นวางของ การตกแต่งชั้นวางของในห้องนั่งเล่น ของตกแต่งที่จัดวางบนชั้นไม่ควรมีจำนวนมากเกินไป จะทำให้ดูไม่สบายตา ควรปรับระยะห่างให้พอดีให้เกิดความรู้สึกโล่งโปร่ง อาจนำต้นไม้ไปวางเพื่อตัดความรู้สึกให้เกิดความโดดเด่นของตัวชั้นวางมากขึ้น
Tips: การตกแต่งห้องนั่งเล่นในสไตล์มินิมอล การเปิดพื้นที่ให้โล่งเป็นสิ่งสำคัญ ให้สามารถเชื่อมต่อกับส่วนอื่นของบ้านได้ เช่น การเปิดผนังบ้านให้เชื่อมกับพื้นที่ห้องครัว แต่ทั้งนี้การเชื่อมต่อควรมีจุดเปลี่ยนเพื่อทำให้แขกรับรู้ถึงการเปลี่ยนพื้นที่ อาทิ การตั้งชั้นวางของ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บอกผู้มาเยือนว่าขณะนี้กำลังเข้าพื้นที่ห้องนั่งเล่น ทำให้แขกได้ปรับความรู้สึกโดยที่เจ้า บ้าน ไม่ต้องบอก
การตกแต่งห้องน้ำในสไตล์มินิมอล เน้นการปรับโทนสีให้เรียบ ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และการเลือกใช้ของตกแต่งที่รูปทรงโดดเด่นสะดุด โดยการตกแต่งห้องน้ำสไตล์มินิมอลมีดังนี้
• พื้น / ผนังห้องน้ำ การตกแต่งพื้นและผนังห้องน้ำ เริ่มต้นจากการกำหนดสี โดยสีที่ใช้เป็นหลักคือสีเรียบอย่าง ขาว ดำ น้ำตาล ทั้งนี้การเลือกใช้วัสดุปูพื้นห้องน้ำควรเลือกประเภทที่แตกต่างกันในโซนเปียกและแห้ง เช่น โซนที่เปียกควรเลือกใช้กระเบื้องพอร์เลนซ์แบบผิวด้าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เป็นต้น
• กระจก ในการตกแต่งห้องน้ำสไตล์มินิมอล ควรเลือกกระจกที่มีการออกแบบที่แตกต่างจากกระจกทั่วไป เช่น กระจกทรงเรขาคณิต ทรงกลม หรือกระจกที่มีรายละเอียดเฉพาะตัว อย่างกระจกที่ตกแต่งด้วยรูปทรงต่าง ๆ เป็นต้น
• อ่างล้างหน้า สำหรับอ่างล่างหน้าควรเลือกแบบที่มีตู้เก็บของด้านล่างเพื่อตรงตามหลักมินิมอลที่ต้องใช้วัสดุและพื้นที่อย่างคุ้มค่า นอกจากนี้การที่อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของ จะทำให้ภายในห้องน้ำ สะอาดตาและทำความสะอาดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
Tips: เคล็ดลับสำหรับตกแต่งห้องน้ำสไตล์มินิมอลคือ การปรับแต่งพื้นห้องน้ำ โดยพื้นห้องน้ำสามารถแยกวัสดุระหว่างโซนแห้งกับโซนเปียกได้ ทำให้ความรู้สึกขณะใช้ห้องน้ำแตกต่างกัน เช่น โซนแห้งใช้พื้นไม้ลามิเนต ส่วนโซนเปียกใช้กระเบื้องพอร์ชเลน เป็นต้น
การตกแต่งห้องครัวในสไตล์มินิมอล เริ่มต้นจากการศึกษาพฤติกรรมการทำอาหาร หากบ้านไหนที่ไม่ได้ทำอาหารเองเป็นหลัก ควรลดขนาดพื้นที่ห้องครัว รวมถึงตัดทอนอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออก ปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในห้องครัวให้ใช้งานเท่าที่จำเป็น โดยการแต่งห้องครัวสามารถทำได้ดังนี้
• โต๊ะทานอาหาร / เก้าอี้ ในการเลือกโต๊ะรับประทานอาหาร สิ่งแรกที่ควรคำนึงคือ จำนวนสมาชิกภายในบ้าน ควรซื้อโต๊ะและเก้าอี้ที่มีขนาดพอดีกับสมาชิก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียพื้นที่ว่างโดยเปล่าประโยชน์ หรือถ้าหากบ้านที่ไม่มั่นใจเรื่องจำนวน การปรับเก้าอี้มาใช้เป็นม้านั่งยาว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
• เคาท์เตอร์บาร์ สำหรับบ้านไหนที่มีสมาชิกน้อย แค่ 1-2 คน การปรับจากโต๊ะอาหารมาใช้เคาท์เตอร์บาร์ในการทานข้าวก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน ถือเป็นการเพิ่มพื้นที่และใช้งานเท่าที่จำเป็นตามหลักมินิมอล นอกจากนี้เคาท์เตอร์บาร์ยังสามารถใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกด้วย เช่น ใช้เป็นมุมจิบกาแฟยามเช้า เปลี่ยนบรรยากาศให้บ้านกลายเป็นคาเฟ่นั่งชิล เป็นต้น
• โคมไฟเพดาน การใช้โคมไฟเพดานตกแต่งบนโต๊ะทานอาหาร ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวบ้าน โดยโคมไฟที่เหมาะสำหรับบ้านสไตล์มินิมอล คือ โคมไฟมีการออกแบบแตกต่าง เน้นไปที่การใช้เส้นสายที่บาง เรียบง่ายแต่มีลายเอียดที่ซับซ้อนซ่อนอยู่
• ชั้นวางของ การติดตั้งชั้นวางของบริเวณผนัง นอกจากช่วยลดการใช้พื้นที่ภายในห้องครัวแล้ว ชั้นวางของยังถือเป็นของตกแต่งที่สร้างรายละเอียดเล็กน้อย ทำให้ห้องครัวน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้การใช้ชั้นวางของสำหรับสไตล์มินิมอล ข้อควรระวังคือการวางที่เยอะเกินไป อาจทำให้ผิดคอนเซปสไตล์มินิมอลที่เน้นใช้ของน้อยชิ้น
• ชุดครัวสำเร็จรูป สำหรับใครที่ต้องการความสะดวกสบาย ในปัจจุบันการตกแต่งห้องครัวมีชุดครัวสำเร็จรูปขาย เพียงแค่วัดขนาดที่ต้องการ สไตล์ของห้องครัวที่ชอบ เพียงเท่านี้คุณก็ได้ชุดครัว โดยไม่ต้องยุ่งยากอีกต่อไป สำหรับการเลือกชุดครัวสไตล์มินิมอล สิ่งสำคัญคือขนาดที่พอเหมาะกับความต้องการ โดยเน้นไปที่การใช้งานเป็นหลัก
Tips: การตกแต่งห้องครัวสไตล์มินิมอล นอกจากการใช้งานแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงคือเรื่องสีและความสะอาด โดยเคาท์เตอร์ทำอาหารส่วนใหญ่มักมีสีดำ ทำให้เห็นคราบสิ่งสกปรกได้ยาก อาจเป็นพื้นที่สะสมของเชื้อโรคได้ ดังนั้นการปรับใช้พื้นเคาท์เตอร์สีขาวแทนสีดำ จะทำให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น แถมยังเพิ่มความมินิมอลให้กับครัวอีกด้วย home
การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลยังนิยมที่จะจัดพื้นที่สเปสให้มีความว่างและดูกว้างเข้าไว้ โดยไม่นิยมการสะสมสิ่งของหรือข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่จําเป็น การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจึงดูเรียบง่าย น้อยชิ้น แต่ทว่าครบถ้วนในเรื่องของประโยชน์การใช้สอย การตกแต่งบ้านสไตล์นี้จึงเหมาะมาก ๆ สําหรับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่รักความสงบและชอบการตกแต่งบ้านที่เน้นความสะอาด ปลอดโปร่ง โล่งสบายเป็นอย่างยิ่ง เราไปดูกันดีกว่าว่าข้อดีของการมีบ้านสไตล์มินิมอลและวิธีการตกแต่งบ้านของคุณให้เป็นสไตล์นี้ จะมีอะไรและต้องทําอย่างไรบ้าง
• ความเครียดน้อยลง ยิ่งมีของมาก ก็ยิ่งมีภาระวุ่นวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาต้องย้ายที่พัก ที่กว่าจะเก็บและย้ายข้าวของแต่ละทีต้องใช้เวลา แถมถ้าใครไม่มีรถส่วนตัว ก็อาจจะต้องคอยทะยอยย้ายของจากที่พักเก่า ไปยังที่ใหม่หลายรอบกว่าจะครบ ทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด แต่ถ้าคุณมีของน้อยชิ้นที่เป็นของที่มีประโยชน์ต่อการใช้สอยจริง ๆ นอกจากจะไม่ทำให้บ้านรกไปด้วยของใช้ที่ไม่จำเป็นแล้ว ยังทำให้บ้านของคุณดูเรียบง่าย เห็นแล้วรู้สึกสบายตา สบายใจได้อีกด้วยนะ
• ทำให้บ้านดูน่าดึงดูดมากขึ้น ลองนึกถึงภาพถ่ายของบ้านที่เต็มไปด้วยของใช้มากมาย กับภาพของบ้านสไตล์มินิมอลที่ดูเผิน ๆ แล้วดูเรียบไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วแฝงไว้ด้วยความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์เรียบหรู งานศิลปะดี ๆ สักชิ้น และของตกแต่งบ้านน้อยชิ้น แต่ว่าแต่ละอันช่างดูเก๋ไก๋เหลือเกิน ซึ่งบ้านสไตล์มินิมอลแบบนี้ต่างหาก ที่เห็นเมื่อไหร่แล้วต้องทำให้เราหยุดดู ดึงความสนใจได้ดีนักเชียว ซึ่งถ้าคุณอยากให้บ้านของคุณดูน่าดึงดูดมากขึ้น ก็สามารถลองแต่งบ้านให้เป็นสไตล์มินิมอลดูได้
• ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า แค่คิดว่าจะต้องทำความสะอาดบ้านที่เต็มไปด้วยของตกแต่ง ของใช้มากมาย ก็รู้สึกเหนื่อยแล้วใช่ไหมล่ะ เวลาจะปัดกวาด เช็ดถู หรือดูดฝุ่นที ก็เสียเวลาไปหลายชั่วโมงทีเดียว แถมยิ่งของเยอะเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยขึ้นเท่านั้น ซึ่งสามารถนำไปสู่ข้อแรกคือ ทำให้เครียดและหงุดหงิด (เพราะใครจะอยากมานั่งทำความสะอาด บ้าน บ่อย ๆ? แต่ลองนึกภาพถ้าบ้านของคุณมีของน้อยชิ้นดูสิ ทำความสะอาดแป๊ปเดียวก็เสร็จ แถมยังมีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้นอีกต่างหาก