วิธีการเลือกรูปแบบห้องครัวให้เหมาะสมกับบ้าน

September 08,2023 Post by : ชูชิต อรัญชิต
  • คู่มือการตกแต่งห้องครัว
  • วิธีการเลือกรูปแบบห้องครัวให้เหมาะสมกับบ้าน วิธีการเลือกรูปแบบห้องครัวให้เหมาะสมกับบ้าน

    ในแง่ของการออกแบบห้องครัวมีหลากหลายรูปแบบที่เราสามารถนำมาใช้กับบ้านของเราได้ อย่างไรก็ตามเราอาจต้องใช้เวลาในการพิจารณาก่อนที่เราจะรีบตัดสินใจในการที่เราจะติดตั้งชุดครัว ห้องครัวของหลายๆ ครอบครัวเป็นหัวใจของบ้าน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้เวลาพิจารณาสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง ไลฟ์สไตล์และความชอบของเรามีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ สิ่งที่เราต้องคำนึงถึง คือ ขนาดของห้องครัว คุณลักษณะการตกแต่ง และแม้แต่สีที่เหมาะสม สิ่งที่เราควรพิจารณาต่อไปนี้นั้นมีผลระยะยาวในการออกแบบครัวให้แก่บ้านของเราไปดูกันครับว่าครัวในยุคปัจจุบันมีรูปแบบใดบ้างและเราควรเลือกรูปแบบไหนมาใช้กับบ้านของเรา

    ห้องครัวสไตล์นี้เน้นการใช้งานเป็นหลักโดยได้รับอิทธิพลอย่างมากจากยุคสมัยใหม่ มีความเรียบง่ายเป็นกุญแจสำคัญและมีความทันสมัย ตามความหมายของคำว่า “ร่วมสมัย” หมายถึง ความทันสมัยในช่วงเวลานั้นๆ และเป็นตัวบ่งชี้ความนิยมของสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้น หากเราเป็นคนที่ติดตามเทรนด์เราก็จะสามารถดูครัวยอดนิยมในช่วงเวลานั้นๆ ได้ตามความต้องการของเราเอง

    นี่คือ สไตล์ที่เป็นที่นิยมของหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของบ้าน ที่กำหนดโดยคุณสมบัติทางประเพณี วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของครอบครัว พื้นเพของประเทศ ศาสนา ล้วนมีผลต่อการออกแบบห้องครัว เช่น การตกแต่งเพดาน คาน หรือตู้เก็บของ ในขณะที่ห้องครัวร่วมสมัย หรือสมัยใหม่ ไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้แต่จะเน้นภาพรวมมากกว่า แต่ห้องครัวแบบดั้งเดิมมีแนวโน้มที่จะให้ความหลากหลาย และรสนิยมส่วนบุคคล ห้องครัวแบบดั้งเดิมเหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการใช้สไตล์ของบ้านเป็นหลักโดยเก็บความดั้งเดิมเอาไว้

    ความแตกต่างระหว่างครัวแบบดั้งเดิมและครัวแบบผสมผสานมีข้อแตกต่างกันนิดหน่อยเท่านั้น แต่ที่แตกต่างกัน คือ เป็นการรวมแบบร่วมสมัยและแบบดั้งเดิมเข้าด้วยกัน ครัวรูปแบบนี้จะคล้ายกับครัวรูปแบบดั้งเดิมแต่ทำให้มีพื้นที่การทำงานที่ง่ายขึ้นจากครัวรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเจ้าของบ้านที่ไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนห้องครัวของตัวเองให้เป็นแบบสมัยใหม่ไปทั้งหมด รูปแบบของครัวนั้นยังสามารถแบ่งตามลักษณะของพื้นที่ในบ้านได้ดังต่อไปนี้ครับ แบบแปลนพื้นฐานสำหรับห้องครัวทั่วไป โดยการตกแต่งห้องครัวด้วยแปลนแบบ “การจัดครัวชิดผนังด้านเดียว (One-Wall Kitchen)” หรือการวางตำแหน่งเคาน์เตอร์ ตู้เก็บของ และเครื่องใช้ทั้งหมดไว้ที่ผนังด้านใดด้านหนึ่งของห้องครัว ซึ่งเป็นแปลนห้องครัวที่เหมาะสมสำหรับที่พักอาศัยที่มีพื้นที่แคบ ๆ เช่น บ้านหลังเล็ก คอนโด สตูดิโอ และห้องใต้หลังคาเป็นอย่างมาก เพราะแปลนแบบนี้กินพื้นที่น้อย ในขณะเดียวกันก็ยังเหลือที่ว่างพร้อมทั้งทำให้บรรยากาศในภาพรวมดูปลอดโปร่งด้วย นอกจากนี้จะดียิ่งกว่า หากเลือกไอส์แลนด์ที่สามารถใช้เป็นโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารได้ในชุดเดียวกัน และไอส์แลนด์นั้นควรจะมีล้อใต้เคาน์เตอร์ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายตำแหน่ง เมื่อต้องการนำออกมาใช้งาน และจัดเก็บหลังจากใช้งาน และยังนำพื้นที่ในส่วนดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ต่อไป สำหรับแปลนห้องครัวแบบ 2 แถวตรง (Galley Kitchen) เป็นแปลนที่มีทางเดินคั่นกลางระหว่างผนังทั้ง 2 ข้างของห้องครัว ในขณะที่ด้านหน้ากับด้านหลังของห้องครัว จะเป็นผนังหรือเป็นทางออกทั้ง 2 ด้านก็ได้ไม่จำกัด เหมาะสำหรับที่พักอาศัยที่มีตัวบ้านยาว หรือห้องครัวแยกออกไปจากตัวบ้าน ส่วนข้อดีของแปลนห้องครัวในลักษณะนี้ นอกจากตำแหน่งตู้เก็บของและของใช้จะอยู่ใกล้มือ สามารถหยิบจับมาใช้ได้ง่ายแล้ว ยังมีเคาน์เตอร์ทำครัวเพิ่มขึ้นมาอีกด้าน ซึ่งก็เป็นพื้นที่ที่มากพอสำหรับรองรับคนทำครัวได้ถึง 2 คนเลยทีเดียว หรือในกรณีที่ท้ายครัวเป็นผนังปิด ยังต่อเติมเคาน์เตอร์ครัวเข้าไปเพื่อใช้เป็นที่วางของใช้ได้อีกด้วย

    การจัดห้องครัวอีกหนึ่งรูปแบบที่เหมาะสมกับที่พักอาศัยขนาดเล็กด้วยเช่นเดียวกัน โดยการจัดครัวรูปตัวแอล ก็คือ การวางแปลนพื้นที่ทำครัวชิดผนังที่มีด้านติดกัน เมื่อมองในภาพรวมแล้วจะเห็นเป็นรูปตัวแอล (L) ซึ่งประโยชน์ของมันก็คือ มีความสะดวกในการเดินและทำอาหาร พร้อมทั้งมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะกับเก้าอี้รับประทานอาหารด้วย โดยในส่วนของผนังควรมีความยาวอย่างน้อย 4.5 เมตร เพราะเป็นขนาดที่ช่วยให้มีพื้นที่ในการเก็บของ พร้อมทั้งทำครัวได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าหากมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง อาจจะต้องพิจารณาการวางแปลนห้องครัวด้วยรูปแบบที่แตกต่างออกไป เพื่อให้ได้ใช้พื้นที่ภายในที่พักอาศัยให้เกิดประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่ามากกว่า ห้องครัวที่วางแปลนไว้บนผนัง 3 ด้านแบบรูปตัวยู (U) หรือเกือกม้า (Horseshoe) เป็นแปลนห้องครัวที่เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ และเจ้าของบ้านที่ต้องการปรุงอาหารหลายๆ เมนูในเวลาเดียวกัน อีกทั้งควรจะมีระยะห่างระหว่างผนัง อย่างน้อย 3 เมตรขึ้นไป เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเตรียม ทำความสะอาด และการใช้ฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ ซึ่งถ้าหากพื้นที่ตรงกลางแคบเกินไป ก็อาจทำให้บานประตูของเก็บของ หรือลิ้นชักชนกันได้ ในกรณีที่มีการเปิดใช้พร้อมกัน ห้องครัวครัวแบบมีเคาน์เตอร์กลางหรือไอส์แลนด์ เริ่มเป็นที่นิยมของคนในปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นแปลนห้องครัวที่มีเคาน์เตอร์ครัวที่แยกออกมาต่างหาก ก็เลยทำให้มีพื้นที่ในการปรุงอาหาร ฟังก์ชั่นเพิ่มเติม และสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายนั่นเอง นอกจากนี้ยังสามารถดีไซน์ให้แตกต่างด้วยการเติมแต่งเครื่องใช้ ลิ้นชักเก็บของ รวมไปถึงอ่างล้างจานบนไอส์แลนด์ด้วยก็ได้ หรือจะใช้ท็อปเคาน์เตอร์ธรรมดาๆ ก็ดูเข้าดีไม่น้อย อีกทั้งยังออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์ถาวร หรือแบบที่สามารถเคลื่อนย้าย เพื่อลดพื้นที่ครัวก่อนนำไปเพิ่มเติมให้กับส่วนอื่นๆ อย่างเช่น พื้นที่รับประทานอาหาร เป็นต้น การวางแปลนครัวในลักษณะนี้มีความคล้ายคลึงกับครัวรูปตัวแอล คือ การวางเคาน์เตอร์ครัวที่มีทั้งด้านยาวและด้านสั้นบนผนังที่ติดกัน แต่แตกต่างออกไปตรงที่ครัวแบบเพนินซูล่า จะมีเคาน์เตอร์ส่วนที่เพิ่มเติมออกมาอีกด้าน แต่ก็ไม่ยาวเท่ากับแปลนครัวรูปตัวยู เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม แถมสัดส่วนองค์ประกอบต่างๆ ยังเข้ากันได้ดีกับพื้นที่ทุกขนาดด้วย นอกจากนี้เคาน์เตอร์ที่เพิ่มออกมาจะทำให้มีพื้นทีเก็บของมากขึ้นแล้ว ยังมีความสะดวกสบายมากกว่าเมื่อมีอยู่ด้านในมากกว่า 1 คนด้วย อย่างเช่น คุณแม่ที่พาลูกน้อยมานั่งในครัว เพื่อความสะดวกในการดูแล ในขณะเดียวกันยังใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารได้ และนี้ก็เป็นรูปแบบครัวทั้งหมด ที่เราสามารถนำไปต่อเติมครัวหรือทำครัวได้ตามพื้นที่ของบ้านเราได้ครับ เพื่อความลงตัวและเหมาะสมในการทำห้องครัวครับ

    Author

    Leave a Reply