หลักการตกแต่งห้องครัวให้สวยนั้น จะต้องดูองค์ประกอบต่างๆ รวมกันด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบแปลนของห้องครัว ประเภทของห้องครัวว่าเป็นลักษณะใด แบบเปิดหรือแบบปิด การจัดวางตำแหน่งของชุดครัว วัสดุอุปกรณ์ภายในห้อง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งฟังดูก็อาจจะดูเป็นเรื่องยาก เพราะต้องดูหลายๆ อย่างไปพร้อมๆ กัน แต่ในครั้งนี้เราจะขอแนะนำเคล็ดลับง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ จะมีเคล็ดอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ
1. ตกแต่งห้องครัวด้วยชั้นวางและตู้เก็บของ
ถ้าพูดถึงห้องครัวทุกคนคงมองภาพออกใช่ไหมคะว่าในห้องครัว 1 ห้องนั้นจะต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง จาน ช้อน ถ้วย กระทะ หม้อ ฯลฯ ดูเยอะแยะไปหมดจนไม่รู้จะเอาไปวางไว้ที่ไหนดี ยิ่งห้องครัวที่อยู่ในคอนโดแล้วพื้นที่ก็จะจำกัดกว่าห้องครัวที่อยู่ภายในบ้านทั่วๆ ไป ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยให้ห้องครัวเป็นระเบียบดูน่าใช้มากขึ้น ก็คงจะหนีไม่พ้นการตกแต่งห้องครัวด้วยการติดตั้งชั้นวางและตู้เก็บของ ซึ่งห้องครัวในคอนโดนั้นอาจจะต้องมีการ Built in แบบตู้ชนิดลอยหรือชั้นลอยเพื่อช่วยจัดการพื้นอันน้อยนิดให้ลงตัวมากที่สุด แต่ทั้งนี้อาจจะต้องดูแปลนของห้องพักรวมทั้งแบบแปลนของห้องครัวที่ทางโครงการวางไว้ ว่าสามารถเพิ่มพื้นที่ในการ Built in ชั้นวางและตู้ได้หรือไม่ เพราะแปลนห้องครัวบางโครงการมีให้ค่อนข้างแคบดังนั้นจึงต้องคำนึงถึงเรื่องพื้นที่ของครัวด้วย
ใครที่มีพื้นที่ของห้องครัวกว้างๆ ข้อได้เปรียบสำหรับการตกแต่งห้องครัวจึงมีมากกว่า คือสามารถบิ้วท์ตู้และชั้นลอยทำให้เก็บของได้เยอะ แต่หากมีชั้นหรือตู้เยอะเกินไปก็อาจจะดูไม่ดีนะคะเพราะจะทำให้ห้องครัวดูรกและรู้สึกแน่นเกินไป
หากห้องครัวมีขนาดเล็ก การตกแต่งห้องครัวก็จะต้องใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดีไซน์ของผู้พัฒนาโครงการนั้นๆ ด้วยว่าจะออกแบบอย่างไร เหมือนกับภาพตัวอย่างนี้เป็นภาพห้องครัวของโครงการ C Ekkamai ที่มีขนาดห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตารางเมตร ถึงแม้ว่าพื้นที่ครัวจะมีขนาดเล็กก็ไม่ได้ทำให้การออกแบบห้องครัวมีปัญหาแต่อย่างใด เพราะเพดานที่สูงถึง 2.70 เมตรนั้นทำให้การออกแบบตู้ลอยมีพื้นที่ในการจัดเก็บถ้วยชามต่างๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งการจัดองค์ประกอบของชุดครัวไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งเตา เครื่องดูดควัน ลิ้นชักเก็บช้อนส้อม ช่องวางไมโครเวฟ ที่กล่าวมานี้จะเห็นได้ว่าโครงการ C Ekkamai มีการออกแบบได้อย่างลงตัวและง่ายต่อการใช้งาน
อีกข้อที่สำคัญสำหรับการจัดวางตู้และชั้น จะต้องดูว่าตู้ติดฝาหรือชั้นลอยสำหรับเก็บจานชาม อยู่ห่างจากอ่างล้างจานหรือไม่ เพราะหากอยู่ใกล้ในอนาคตตัวตู้ที่ทำจากวัสดุไม่ทนน้ำอาจเกิดการบวมได้ ดังนั้นจึงควรติดตั้งหรือเลือกจัดวางให้ห่างจากอ่างล้างจานไปอีก ในส่วนของชั้นหรือที่คว่ำจานชาม แก้วน้ำ ควรติดผนังเหนืออ่างล้างจาน หรือวางไว้ข้าง ๆ อ่างล้างจาน เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะเมื่อล้างเสร็จแล้วก็นำไปคว่ำได้เลย ไม่ต้องยุ่งยากในการเดินไปมาเพื่อ
นอกจากความสะดวกในการใช้งานแล้วการตกแต่งห้องครัวด้วยอุปกรณ์เครื่องครัวที่มีสีสันสดใสก็จะช่วยทำให้ห้องครัวดูน่าใช้งานมากขึ้น เช่น แก้วลายการ์ตูน ถ้วยชามลายวินเทจ ฯลฯ
เพิ่มเติมสำหรับตู้แขวนหรือชั้นลอย ควรมีมีระยะห่างจาก top ครัวประมาณ 80 ซม. หรือ 160 - 165 ซม.จากพื้นห้อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันศีรษะกระแทกโดนขอบหรือมุมตู้แขวนนั้นเองค่ะ
สิ่งสำคัญในการตกแต่งห้องครัว ก็คือการจัดวางอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ เพราะหากวางผิดก็อาจจะส่งผลต่อการใช้งาน เช่น เรื่องกลิ่น ความสกปรก ความสะดวก และความปลอดภัย ซึ่งจะมีอุปกรณ์เครื่องใช้อะไรบ้างมาดูกันค่ะ
เตาไฟฟ้า เพื่อความสะดวกในการใช้งานควรตั้งไว้ไม่ไกลจากที่เตรียมอาหาร แต่ก็ควรดูเรื่องจุดที่วางด้วยว่าโปร่งหรือไม่ เพราะหากวางในที่คับแคบๆ อาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการทำความสะอาด เกิดกลิ่นอับ ดังนั้นหากสามารถย้ายที่ตั้งเตาไฟฟ้าได้ก็ควรย้ายเพื่อจะได้ง่ายเวลาทำอาหาร แต่ในกรณีที่มีการติดตั้งแบบฝังกับชุดครัวไปแล้วอันนี้ก็อาจจะยากหน่อย อาจจะต้องมีการเปลี่ยน top ครัวทั้งหมด ซึ่งอาจจะทำให้สูญเงินโดยใช่เหตุ
การวางอ่างล้างจาน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การตกแต่งห้องครัวน่าใช้ ซึ่งตำแหน่งที่เหมาะสมนั้นคือวางต่อจากโต๊ะเตรียมอาหาร เพราะเวลาจะล้างผัก ล้างอุปกรณ์ต่างๆ จะทำให้การใช้งานง่ายขึ้น ทั้งนี้จะต้องดูด้วยนะคะว่าบริเวณใกล้ๆ อ่างล้างจานนั้นอยู๋ใกล้กับเต้าเสียบปลั๊กหรือไม่ เพราะหากใกล้ต้องระวังเรื่องของอุบัติเหตุเรื่องไฟ เช่น ไฟช๊อต เต้าเสียบปลั๊กเสีย เป็นต้น หรือหากสามารถย้ายเต้าเสียบได้ก็จะดีค่ะ
ตู้เย็น อาจมีพ่อบ้านหรือแม่บ้านคอนโดที่ยังไม่รู้ว่าควรตั้งตู้เย็นอยู่ตรงไหนดี และควรจัดวางอย่างไร คำตอบคือ ควรวางในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และควรห่างจากผนังไม่น้อยกว่า 15 เซนติเมตร หลายคนมีข้อสงสัยว่าตู้เย็นสามารถวางใกล้กับเตาไฟฟ้า และอ่างล่างจานได้หรือไม่ คำตอบคือได้แต่ก็ควรดูระยะห่างด้วยเพราะตู้เย็นนั้นจะต้องมีการระบายความร้อน หากใกล้กับเตาไฟฟ้าหรืออ่างล้างหน้าจนชิดแล้วล่ะก็ อาจทำให้การระบายความร้อนของตัวเย็นลำบาก ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น
โต๊ะเตรียมอาหาร ( pantry ) ในกรณีที่คอนโดมีเนื้อที่กว้างมาก ดังนั้นหลายคนจึงเลือกตกแต่งห้องครัวด้วยการเพิ่ม pantry แบบแยกเข้าไปด้วย ซึ่งตำแหน่งการจัดวางนั้น ควรวางให้ติดหรือใกล้กับโต๊ะที่ทำอาหารเพื่อง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งบริเวณใต้ pantry อาจจะเป็นตู้สำหรับเก็บข้าวของเครื่องใช้ภายในครัว
นอกจากการตกแต่งห้องครัวด้วยชุดครัวและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แล้ว พื้นของครัวก็มีส่วนที่จะช่วยให้เราอยากใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพื้นครัวของคอนโดมักจะเป็นพื้นที่ทางโครงการมีให้ตั้งแต่แรกคือพื้นลามิเนต ให้เราไม่สามารถเลือกพื้นห้องครัวเองได้ ข้อเสียของพื้นลามิเนตนั้น หากโดยน้ำบ่อยๆ เข้าพื้นอาจจะบวม ซึ่งห้องครัวส่วนใหญ่ที่เป็นพื้นลามิเนตมักจะเป็นคอนโดที่มีครัวแบบเปิดและอยู่ใกล้กับบริเวณทางเข้าของห้อง ห้องครัวลักษณะเปิดนี้จะใช้พื้นห้องร่วมกับส่วนอื่นๆ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ดังนั้นการเปลี่ยนพื้นจึงเป็นเรื่องยากแต่ก็มีวิธีแก้ไขเช่นกัน
สำหรับครัวแบบเปิดที่มีพื้นใช้ร่วมกันกับส่วนอื่นๆ วิธีการแก้อาจจะหาพรมรองพื้นวางไว้ใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์ เพื่อความสวยงามตามความชอบอาจจะหาพรมลายสวยๆ หรือน่ารักมาใช้ก็ได้ ทั้งนี้การวางพรมสามารถช่วยในเรื่องของความสะอาดได้แต่ก็ต้องรู้จักนำพรมไปทำความสะอาดเป็นประจำด้วย ( ยุ่งยากเล็กน้อย )
วิธีแก้ไขอีกแบบ ซึ่งนับว่าเป็นการตกแต่งห้องครัวไปในตัว คือการใช้เสื้อน้ำมันมาปูรองบริเวณใกล้ๆ กับซิงค์ล้างจานและบริเวณทำครัวค่ะ วิธีนี้จะช่วยป้องกันความสกปรกและป้องกันน้ำหกโดนพื้นลามิเนตโดยตรง อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานขอ พื้นลามิเนตอีกด้วย
ในกรณีที่ผู้อาศัยสามารถตกลงกับคอนโดก่อนเช่าซื้อได้ คือสามารถปรับเปลี่ยนเรื่องพื้นผิวในห้องครัวจากพื้นลามิเนตมาเป็นพื้นแกรนิตโต้ก็จะดีมากค่ะ เป็นการป้องกันไม่เกิดปัญหาเรื่องพื้นบวมในอนาคต และสะดวกในเรื่องการทำความสะอาดที่ง่ายขึ้นอีกด้วย แต่ห้องครัวที่ใช้พื้นร่วมกับห้องอื่นๆ นั้นการเปลี่ยนพื้นห้องจะยากมาก จึงแนะนำให้ใช้การปูพรมหรือปูพื้นด้วยเสื้อน้ำมันทับอีกทีค่ะ
หากอยากให้ห้องครัวดูกว้างขึ้น และง่ายต่อการใช้งาน การจัดห้องครัวในแบบตัวแอลหรือตัวยูซึ่งเป็นการจัดวางชุดครัวแบบชิดผนังทั้งสองด้านจะทำให้ห้องครัวดูกว้างขึ้น สะดวกในการเดินไปมาและทำอาหาร อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะกับเก้าอี้รับประทานอาหารด้วย ซึ่งคอนโดส่วนใหญ่มักจะนิยมทำครัวแบบตรง ซึ่งทำให้พื้นที่การใช้งานจะค่อนข้างน้อย
เคาน์เตอร์ครัวรูปตัวแอล (L-Shaped) เป็นการตกแต่งห้องครัวรูปแบบหนึ่งที่เหมาะกับคนที่พักอาศัยแบบคอนโด เป็นการจัดเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล คือเคาน์เตอร์ครัวทั้งสองจะอยู่ชิดผนังทั้งสองข้างเหมือนกับในรูป ซึ่งห้องครัวรูปตัวแอลเหมาะกับการทำกับห้องที่มีผนังยาวด้านใดด้านหนึ่งมากกว่า เป็นการวางแปลนห้องที่อำนวยความสะดวกในการประกอบอาหาร และเพิ่มพื้นที่ในการใช้งานอีกด้วย
สำหรับคอนที่มีพื้นที่ขนาดเล็กมาก การออกแบบครัวให้เป็นรูปตัวแอลนั้นอาจจะยังไม่เหมาะนัก เพราะต้องดูว่าแปลนของห้องนั้นจัดพื้นที่ในการติดตั้งชุดครัวมาในลักษณะไหน แต่ส่วนใหญ่ที่พบมักจะเป็นรูปแบบตัว I คือมีลักษณะยาว การจัดวางซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า อยู่ใกล้กันและมีพื้นที่ในการเตรียมอาหารค่อนข้างน้อย ดังนั้นวิธีที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับครัวลักษณะรูปตัว I อาจจะสั่งทำโต๊ะที่ติดกับชุดครัว ที่สามารถดึงออกมาใช้และพับเก็บได้ เหมือนกับห้องครัวโครงการ C Ekkamai
เคาน์เตอร์ครัวรูปตัวยู (U-Shaped) เหมาะสำหรับแปลนห้องครัวที่มีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร ซึ่งคอนโดที่มีเนื้อที่กว้างจะสามารถทำได้ หรือคอนโดที่มีเนื้อที่อาจจะไม่มากนัก แต่แปลนถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยต่อการทำครัวเป็นรูปแบบตัว U ซึ่งก็นับว่าเป็นข้อดีเพราะครัวรูปตัวยูทำให้ง่ายต่อการจัดเตรียมอาหาร ง่ายต่อการทำความสะอาด และสามารถวางอุปกรณ์ต่างๆ ได้เยอะ แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงนั้นคือ ต้องดูที่ระยะห่างระหว่างผนังห้องทั้งสองฝั่งด้วยคะว่า มีระยะห่างกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตามหลักแล้วควรมีความห่างอย่างน้อย 3 เมตรขึ้นไปจึงจะเหมาะสม เพราะถ้าชิดกันมากเกินไปเวลาเปิดใช้ลิ้นชักพร้อมๆ กัน อาจจะเกิดการชนกันได้
โทนสีมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนเรา ดังนั้นจะเห็นได้ว่าปัจจุบันคนนิยมตกแต่งห้องด้วยการทาสี หรือเปลี่ยนวอลเปเปอร์ในที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องรับแขก หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนห้องครัวด้วยโทนสีต่างๆ เหมือนที่บอกไปตอนแรกว่าสีมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึก ดังนั้นการเลือกใช้สีภายในห้องครัวที่สวยและถูกใจเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้ห้องครัวแลดูน่าใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสีโทนเย็นหรือโทนร้อนทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน ลองมาชมตัวอย่างกันค่ะ
สำหรับคนที่ชื่นชอบสีแนววินเทจ หรือพาสเทลหน่อยๆ ก็จะทำให้ห้องครัวดูสดใสน่ารักเหมาะกับสาวๆ ที่รักการทำอาหารเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเบเกอรี่ ซึ่งการตกแต่งห้องครัวในโทนสีดังกล่าวอาจจะถูกใจผู้ใช้แต่ก็ควรระมัดระวังเรื่องความสะอาดของชุดครัว เพราะถ้าหากมีการทำอาหารเลอะๆ ประเภททิ้งคราบสกปรกไว้มากๆ การทำความสะอาดก็จะยุ่งยากตามไปด้วย อีกอย่างเมื่อเกิดความสกปรกแล้วก็จะสังเกตเห็นได้ชัด ดังนั้นห้องครัวที่มีโทนสีอ่อนจึงต้องระวังเป็นพิเศษ
มาถึงห้องครัวที่ใช้สีในการตกแต่งแบบคุมโทนสีกันบ้าง เหมือนอย่างในรูปตัวอย่างเป็นโทนเหลืองอ่อนตัดกับเฟอร์นิเจอร์ลายไม้ ยิ่งมีข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นตะกร้าหวายแล้วก็ยิ่งให้ความรู้สึกเหมือนห้องครัวในแบบสมัยก่อนขึ้นมาเลยในทันที แต่ก็มีความกลมกลืนในแบบร่วมสมัยด้วยค่ะ
น้อยคนนักที่เลือกการตกแต่งห้องครัวด้วยโทนสีร้อน อย่างเช่น สีแดงสด สีแสด แต่ก็ไม่ได้มีข้อห้ามอะไรที่บัญญัติขึ้นมา ดังนั้นใครที่สนใจเปลี่ยนสีห้องครัวหรือชุดครัวด้วยโทนสีแรงๆ แบบนี้ก็ต้องปรึกษาผู้ร่วมอาศัยด้วย เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่หากคุณอยู่คนเดียวหรือเป็นคนทำอาหารอยู่คนเดียวแล้วล่ะก็สามารถตัดสินใจได้เลยคะ เหมือนสุภาษิตที่ว่า ‘ ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ’ อะไรทำนองนั้น
มาชมแบบห้องครัวในสไตล์ลอฟท์กัน นับว่าเป็นสไตล์ที่ยังอินในกระแส ใครที่ชอบห้องครัวที่สวยแต่ดิบก็คงจะหนีไม่พ้นกันเลยล่ะ สำหรับโทนสีของห้องสไตล์นี้คงไม่ต้องอธิบายกันมากนักเพราะเขาเน้นเรื่องโชว์โครงสร้าง เหล็ก เสา ผนัง ที่โชว์ความดิบและเท่ แต่ทั้งนี้ห้องครัวในคอนโดอาจจะไม่สามารถทำได้มากนักเนื่องจากโครงสร้างที่ถูกควบคุมด้านความปลอดภัยของตัวอาคาร ดังนั้นการเปลี่ยนสีผนังห้องด้วยวอลเปเปอร์ในแบบลอฟท์ การปรับเปลี่ยนพื้นผิวและเฟอร์นิเจอร์บางส่วน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ได้ห้องครัวในแบบลอฟท์ได้ไม่ยาก
แสงในการตกแต่งห้องครัวนั้นเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย ยิ่งแสงสว่างเพียงพอการปรุงอาหารหรือการเตรียมอาหารก็จะสะดวกมากขึ้น สีสันหรือหน้าตาอาหารที่ทำก็จะชัดเจนมากขึ้นไม่หลอกตา อีกทั้งยังช่วยปลุกวิญญาณความเป็นพ่อครัวและแม่ครัวในตัวของเราให้รู้สึกอยากทำอาหารเพิ่มขึ้น มาดูตัวอย่างการจัดไฟในห้องครัวกันดีกว่าว่าจะมีแบบไหนกันบ้าง
การตกแต่งไฟในห้องครัวโทนสีขาวนั้นไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่นัก เพราะมีความสว่างของผนังและพื้นผิวของห้องอยู่แล้ว ดังนั้นให้จัดไฟแต่พอดีไม่ควรใช้ไฟที่มีแสงสว่างจ้าหรือเยอะเกินไปแต่อย่างลืมไฟเฉพาะจุดนะคะ เช่น ไฟตรงเตาไฟฟ้า ไฟตรงซิงค์ล้างจาน บริเวณทำอาหารซึ่งสำคัญไม่น้อย เพราะจะช่วยให้การมองเห็นขณะทำอาหารชัดเจนยิ่งขึ้น
ในส่วนของห้องครัวที่ใช้โทนห้องสีเข้ม การตกแต่งห้องครัวด้วยไฟจึงต้องออกแบบและดีไซน์ให้เหมาะกับอารมณ์ของผู้ใช้พอสมควร เพราะคนที่ตกแต่งห้องครัวในแบบสไตล์ของตัวเองเน้นโทนสีต่างๆ ที่ตัวเองชื่นชอบการจัดไฟก็จะเป็นแบบเฉพาะตัว ซึ่งก็ไม่ควรลืมเรื่องแสงสว่างที่เพียงพอในการใช้งาน เช่น ห้องครัวแนวลอฟท์ ห้องครัวที่ตกแต่งด้วยไม้ เป็นต้น ซึ่งสไตล์เหล่านี้ก็จะมีการติดตั้งดวงไฟและวัสดุใที่แตกต่างกันตามไปด้วย ดังนั้นการติดหลอดไฟต่างๆ ภายในห้องครัวก็ควรปรึกษาผู้รู้ด้วยไปด้วยค่ะ
มาถึงห้องครัวที่ต้องการความโปร่งโล่งสบายในการใช้งาน ส่วนใหญ่มักจะเน้นความสว่างของห้องเป็นหลัก เช่น พื้นห้องครัว ผนังห้องครัว รวมทั้งฝ้าหรือเพดานห้องครัวที่ใช้โทนสีสว่างเป็นหลัก และยิ่งห้องครัวที่รับแสงจากภายนอกเข้ามาเยอะการใช้ไฟในการช่วยตกแต่งห้องครัวก็จะน้อยลง
สำหรับการตกแต่งห้องครัวในคอนโด ต้องดูกันก่อนว่าทางโครงการนั้นมีการติดตั้งไฟเฉพาะจุดให้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วโครงการมักจะให้เฉพาะไฟติดเพดานภายในห้องครัว 1 ดวงเท่านั้น ดังนั้นการตกแต่งในบริวณจุดเล็กๆ น้อยๆ จึงกลายเป็นเรื่องผู้อาศัยไป จากรูปเป็นภาพตัวอย่างห้องครัวของ โครงการ C Ekkamai ย่านสุขมวิท จะเห็นได้ว่าบริเวณเหนือ Top ครัวจะมีไฟติดอยู่บริเวณใต้ตู้แขวน ซึ่งจะช่วยให้บริเวณทำอาหารดูสว่าง ไม่มืดและง่ายต่อการใช้งาน เวลาประกอบอาหารจะสามารถเก็บรายละเอียดและสร้างสรรค์เมนูอาหารได้สะดวกขึ้น
นอกจากการตกแต่งห้องครัวด้วยไฟแล้ว บริเวณโต๊ะอาหารก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยในการช่วยให้ห้องครัวแลดูน่าใช้ จากรูปภายในห้องตัวอย่างของโครงการ C Ekkamai จะเห็นว่ามีการตกแต่งด้วยไฟระย้าเหนือโต๊ะอาหาร ทำให้บรรยากาศในการรับประทานอาหารดูมีระดับเพิ่มขึ้นเหมือนกับการไปทานอาหารนอกบ้าน
แม้เรื่องการตกแต่งภายในห้องครัว จะเป็นเรื่องของวัสดุอุปกรณ์และการออกแบบ แต่สิ่งที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือ เรื่องความสะอาดก็ต้องมีด้วยเช่นกัน ยิ่งห้องครัวสะอาดความรู้สึกอยากทำอาหารก็ยิ่งมีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นเรื่องความสะอาดจึงไม่ควรละเลย เช่น เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วไม่ควรปล่อยจานชามทิ้งไว้ ทำความสะอาดเตาไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อใช้งานเสร็จ หรือเช็ดทำความสะอาดชั้นวางอยู่เสมอ เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็ทำให้ห้องครัวดูน่าใช้ขึ้นมาได้ไม่ยากค่ะ
เคล็ดลับการตกแต่งห้องครัวให้น่าใช้งาน 7 ข้อที่กล่าวมาดูไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เพียงแค่รู้หลักการง่ายๆ ทุกคนก็สามารถทำได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นคอนโดเท่านั้นนะคะ จะเป็นบ้านหรือเป็นอพาร์ทเม้นท์ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกัน เมื่อตกแต่งห้องครัวสวยแล้วก็อย่าลืมดูแลห้องอื่นๆ ด้วยนะคะ