September 01,2022 Post by : ชูชิต อรัญชิต
ครัวเป็นหนึ่งในห้องที่สำคัญที่สุดห้องหนึ่งของบ้าน เพราะนอกจากความเชื่อที่ว่าครัวคือที่ ๆ ทำให้เรามีกิน อีกเหตุผลหนึ่งคือห้องครัวเป็นห้องที่รวบรวมพลังงานของธาตุไฟไว้อย่างเข้มข้น ธาตุไฟนี้เองมีทั้งคุณและโทษ อุปมาเช่น หากเราใช้ไฟในการประกอบอาหาร เราก็จะได้มีกิน แต่หากเราใช้ไฟอย่างไม่ระวังแล้ว ไฟก็อาจเผาพลาญเราได้เช่นกัน
การวางฮวงจุ้ยห้องครัวจึงเป็นตำแหน่งที่ต้องจัดแต่งอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก และมีกฎเกณฑ์ข้อห้ามมากมาย หากไล่ดูกันแล้วอาจมีมากกว่า 100 กฎ แต่เนื่องด้วยครัวในสมัยก่อนไม่ได้มีลักษณะเหมือนเช่นทุกวันนี้ คือ ครัวสมัยก่อนใช้เตาไฟที่มีความร้อนแผ่ออกมามาก จึงมีเรื่องการวางตำแหน่งของส่วนครัวที่ต้องระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้กระทบกับส่วนอื่น ๆ ของบ้าน แต่ทุกวันนี้ห้องครัวใช้แก๊ส ปิดมิดชิด ทำให้กฎบางข้อที่เคยใช้มาในอดีตอาจถูกยกเว้นได้บ้าง
แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังมีกฎบางข้อที่ยังทันสมัย และยังควรยึดถือปฏิบัติตาม เราจะคัดมาทั้งหมด 10 ข้อ ที่ถือเป็น กฎเกณฑ์ที่ยังนิยมใช้กันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันโดยยังไม่ตกยุคแต่อย่างใด
กฎข้อที่ 1 ไม่ตั้งห้องครัวตรงข้ามกับห้องน้ำ หรือห้องนอน ตามหลักแล้วเราถือว่าห้องครัวเป็นธาตุไฟ และมีพลังหยางรุนแรง การตั้งห้องน้ำที่เป็นธาตุน้ำ และห้องนอนที่ต้องการพลังหยินเพื่อพักผ่อนเป็นการทำให้พลังงานขัดแย้งกันจนอาจเกิดความวุ่นวาย ในอีกทางเราอธิบายได้ว่าห้องน้ำมีเชื้อโรคมากจึงไม่ควรอยู่ใกล้ห้องประกอบอาหาร และการที่ห้องนอนอยู่ใกล้ห้องครัวก็อาจถูกกลิ่นและควันรบกวนเวลานอนได้
กฎข้อที่ 2 ควรจะมีกำแพงพิงหลังเตา และไม่ควรเป็นหน้าต่าง เตาไฟที่มีความร้อนควรมีกำแพงอยู่ด้านหลังเพื่อป้องกันความร้อนแผ่กระจายออกหลายทาง รวมถึงการที่เราไม่ให้หลังเตาไฟมีหน้าต่างเพราะลมจากภายนอกอาจจะรบกวนไฟได้ นอกจากนั้นเราถือเตาไฟเป็นประธานของห้องครัว เหมือน ๆ กับเตียงในห้องนอน หลักการคือเราต้องการความมั่นคงของประธานห้อง
กฎข้อที่ 3 อย่าปล่อยให้ห้องครัวสกปรก ความสกปรกถือเป็นพลังงานที่ไม่ดี ทั้งนี้รวมถึงกลิ่นด้วย การปล่อยให้ห้องครัวสกปรกก็จะทำให้เกิดเชื้อโรคแบคทีเรียที่อาจจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วย เพราะเราต้องปรุงอาหารในครัวมาเพื่อรับประทาน
กฎข้อที่ 4 ไม่ติดกระจกในห้องครัว ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องมีกระจกในห้องครัว กระจกเป็นเครื่องมือทางฮวงจุ้ยอีกอย่างที่ต้องใช้อย่างระมัดระวังเรื่องจากกระจกสามารถสะท้อนพลังงานทั้งดี และไม่ดีได้ สามารถทำให้พลังงานที่ดีหรือไม่ดีทวีคูณได้ สำหรับห้องครัวที่เราถือเป็นห้องพิเศษที่มีพลังของธาตุไฟสูงอยู่แล้วจึงไม่ควรนำกระจกไปขยายพลังความร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก
กฎข้อที่ 5 เตาห้ามประจันหน้ากับประตูครัว เมื่อเปิดประตูห้องแล้วสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของห้องนั้น ๆ หรือเราจะเรียกว่าเป็นประธานของห้อง โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะวางสิ่งของที่ดี ๆ มีมงคล ซึ่งไม่ใช่เตาไฟอย่างแน่นอน เพราะเราถือว่าเตาไฟจะเผาผลาญทั้งสิ่งที่ดี และไม่ดี
กฎข้อที่ 6 ไม่ตั้งห้องครัวอยู่ใต้ห้องนอน และห้องน้ำ ข้อแรกการตั้งห้องนอนให้อยู่เหนือครัวเป็นสิ่งที่ผิดปกติอยู่แล้วในแง่สถาปัตย์เพราะห้องครัวต้องการเดินท่อระบายควัน การที่ห้องนอนอยู่เหนือห้องครัวจึงอาจถูกรบกวนจากควันได้ ตามหลักการแล้วเปรียบได้กับการนอนอยู่บนเตาไฟนั่นเอง หรือถ้าเป็นห้องน้ำยิ่งมีปัญหามากขึ้นไปอีกเพราะการนำน้ำทับอยู่บนไฟก็ไม่ต่างอะไรกับเอาน้ำเทใส่กระทะร้อน ๆ จนอาจเกิดระเบิดขึ้นนั่นเอง และนี่คือการเปรียบเทียบให้เห็นถึงความขัดแย้งของพลังงานธาตุที่เกิดขึ้น
กฎข้อที่ 7 อย่าตั้งห้องครัวประจันหน้ากับประตูใหญ่ ตามที่กล่าวไปในกฎข้อที่ 5 เตาไฟสามารถเผาได้ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี การนำห้องครัวให้เผชิญหน้ากับประตูใหญ่ก็เท่ากับการที่เราไม่ต้อนรับพลังชี่ที่กำลังไหลเวียนเข้ามาในตัวบ้านนั่นเอง โดยปกติหลังจากเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วเราจะคาดหวังให้มีโถงกว้างเพื่อไว้กักเก็บพลังชี่ก่อนเดินทางไหลเข้าสู่ห้องต่าง ๆ ของตัวบ้านต่อไป
กฎข้อที่ 8 อย่าตั้งห้องครัวให้อยู่ในทิศเหนือ ทิศเหนือถือเป็นทิศธาตุน้ำ สังเกตุได้จากประเทศที่อยู่ทางทิศเหนือจะมีภูมิอากาศหนาวเย็นกว่าทิศใต้ การนำห้องครัวไปอยู่ทางทิศเหนือของตัวบ้านก็เท่ากับการที่เรานำธาตุไฟไปปะทะกับธาตุน้ำโดยตรง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายภายในครอบครัว และอาจจะกระทบถึงเรื่องของการงานได้
กฎข้อที่ 9 อย่าให้ห้องครัวอยู่โซนหน้าบ้าน ห้องครัวคือที่ผลิตทรัพย์สินของบ้าน เราคงไม่อยากเปิดทรัพย์สินของเราให้ใครเห็นง่าย ๆ ควรต้องเก็บซ่อนไว้อย่างมิดชิด นั่นคือการนำห้องครัวให้อยู่หลังบ้านนั่นเอง อีกนัยหนึ่งเพราะจะสะดวกต่อการทำระบบระบายอากาศ และง่ายต่อการทำความสะอาดเพราะครัวจะต้องมีของเสียทิ้งมากนั่นเอง
กฎข้อที่ 10 อย่าตั้งห้องครัวอยู่บริเวณกลางบ้าน จุดกึ่งกลางของบ้านคือจุดที่จะรวบรวมพลังทั้งหมด จุดกลางบ้านในอุดมคติคือโถงใหญ่ การที่เรานำห้องครัวไปวางไว้ตรงกลางคือการเผาทำลายหัวใจของบ้าน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพ และคนในครอบครัวจะไม่สามัคคีกัน
และนั่นคือกฎห้องครัวทั้ง 10 ข้อที่ยังคงสามารถนำมาปรับใช้ได้อยู่ในยุคปัจจุบัน หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินกฎเกณฑ์อื่น ๆ นอกเหนือจากนี้อีกมากมาย เช่น ห้ามวางเตาตรงข้ามกับอ่างน้ำ หรือตู้เย็น บ้างก็ว่าให้พิจารณาเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยเป็นเหมือนเตาไฟด้วย หรือบางทีก็อาจจะเป็นเรื่องการทาสีต่าง ๆ กฎเกณฑ์เหล่านี้ไม่ได้ผิด หรือถูก หากปฏิบัติได้โดยไม่ลำบากเกินไปก็อาจจะปรับเพื่อความสบายใจได้ แต่ถ้าหากว่าการปรับจะทำให้ลำบากเดือดร้อนก็แนะนำว่าให้สบายใจได้ เพราะผลที่เกิดขึ้นจากกฎเล็กน้อยเหล่านี้แทบจะไม่มีผลใด ๆ ต่อชีวิตเลย
