คู่มือจัดงบแต่งบ้านฉบับมนุษย์เงินเดือน EP1: ตอนแต่งห้องนอน

January 11,2023 Post by : ชูชิต อรัญชิต
  • คู่มือการตกแต่งห้องนอน
  • คู่มือจัดงบแต่งบ้านฉบับมนุษย์เงินเดือน EP1: ตอนแต่งห้องนอน คู่มือจัดงบแต่งบ้านฉบับมนุษย์เงินเดือน EP1: ตอนแต่งห้องนอน

    นอกจากความสุขของการที่เราได้มีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง เรายังจะได้รับความสุขสนุกสนานกับการเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ ทั้งหลายเข้ามาตกแต่งบ้านเราให้สวยอย่างที่เราฝันเอาไว้ แต่การจะตกแต่งบ้านให้สวยงามนั้นมักมีข้อจำกัดด้านงบประมาณหรือเงินในกระเป๋า มนุษย์เงินเดือนที่ซื้อบ้านซื้อคอนโดจึงมักเกิดข้อสงสัยว่า

    TOOKTEE จึงได้รวบรวมค่าใช้จ่ายต่างๆในการตกแต่งบ้านจนสวยอย่างในฝันมาให้ผู้อ่านเก็บไว้เป็นข้อมูล และเอาไปใช้วางแผนแบ่งงบ เก็บเงิน และเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้สวยสมดุลกันไปทุกห้อง

    โดยบทความนี้ TOOKTEE จะมาพูดถึงห้องที่เราใช้ใช้ชีวิตอยู่ภายในนานที่สุดในบ้าน ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นวันหยุดหรือวันทำงาน นั่นก็คือ “ห้องนอน”

    หากคุณผู้อ่านไม่อยากเน้นงบประมาณในการแต่งบ้านไปที่ห้องนอนมากนัก และไม่เน้นความสยงามของห้องนอน Tookteeขอแนะนำให้ซื้อ “ชุดห้องนอน” แบบครบเซ็ต ที่ประกอบด้วย เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ทางร้านเฟิอร์นิเจอร์มักจะเสนอขายเป็นชุด ราคา0tอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 20,000 บาท แต่วัสดุที่ใช้และการออกแบบจะไม่ค่อยดีและมีให้เลือกไม่มากนัก แต่ราคานี้ไม่มีฟูกให้ต้องซื้อฟูกเอง จุงต้องบวกราคาฟูก 6 ฟุตขั้นต่ำไปอีก 8,000

    แต่หากผู้อ่านอยากตกแต่งห้องให้สวยงามและมีสไตล์เป็นของตัวเอง TOOKTEE ก็ขอแนะนำให้แยกซ์้อเป็นชิ้น และเลือกเฟอร์นิเจอร์ในแบบที่เราถูกใจ และ เฟอร์นิเจอร์ที่เราต้องพูดถึงเป็นอันดับแรกก็คือ “เตียงนอน” เพราะเราต้องใช้เวลาอยู่บนนั้นถึงวันละ 8 ชั่วโมง

    ราคาของเตียงนั้นขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพซึ่ง TOOKTEE ขอแนะนำให้จัดสรรงบประมาณของห้องนอน ไปไว้ที่เตียงให้มากที่สุด อย่าไปคำนึงว่าจะไม่มีงบเพื่อเฟอร์นิเจอร์อื่นภายในห้อง เพราะอย่างที่ TOOKTEE ให้เหตุผลก่อนนี้ เราต้องใช้เวลากับ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้นานที่สุดในบ้าน ดังนั้นเราจึงตัดเตียงขนาดเล็กออกไปจากสิ่งที่เรามองหา เลือกเตียงขนาดใหญ่เพื่อให้เราสามารถนอนแผ่ไปให้สบายที่สุด ขนาดที่แนะนำคือ เตียง 5 ฟุต(ควีนไซต์)-6 ฟุต(คิงไซต์)

    เตียงนอนส่วนใหญ่จะขายแยกกันระหว่าง โครงเตียงและตัวฟูกเตียง แต่หากสามารถติดต่อตามร้านเครื่องนอนโดยเฉพาะ ร้านเหล่านั้นอาจจะมีโปรโมชั่นที่ขายคู่กันทั้งฟูกและโครงเตียง

    ราคาของโครงเตียงขนาด 5-6 ฟุต จะขึ้นอยู่กับขนาด และวัสดุที่ใช้ TOOKTEE แนะนำให้ใช้วัสดุโครงเตียงที่ทำจากไม้ที่เชื่อมต่อกันสนิทเป็นชิ้นเดียว ไม่ใช้เตียงเหล็กที่จะมีส่วนต่อซึ่งจะคอยส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว และ TOOKTEE แนะนำให้ซื้อโครงเตียงที่มีหัวเตียงให้นั่งพิงได้ เพราะ TOOKTEE รู้ว่าผู้อ่านทุกท่านน่าจะต้องมีที่ให้นั่งพิงบ้าง เวลาที่นอนเล่นมือถือนานเกินไปจนเมื่อยแขน

    ราคาฟูกเตียงช่วงราคาระดับขั้นต่ำนี้อยู่ที่ ประมาณ 7,000-10,000 บาท ซึ่งจะเป็นฟูกฟองน้ำหรือสปริงคุณภาพปานกลาง

    ระดับห้องในฝัน จะเลือกเป็นโครงเตียงที่ขอย้ำว่าใช้ขนาดใหญ่สุดไปเลย นั่นก็คือขนาด 6 ฟุต และถ้าหากเป็นโครงเตียงที่จะใช้ภายในคอนโด ก็ควรเลือกโครงเตียงที่มีช่องเก็บของใต้เตียงช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในคอนโด ซึ่งราคาอาจจะเพิ่มขึ้นมาจากเดิมประมาณ 3 – 4 พัน ช่วงราคาของเตียงประเภทนี้อยู่ที่ประมาณ 12,000-15,000 บาท

    ส่วนเรื่องของฟูกเตียง TOOKTEE แนะนำให้เลือกฟูกเตียงตามความชอบของผู้นอน

    - หากชอบนอนเตียงนุ่ม แนะนำเป็นฟูกแบบ “เม็มโมรี่โฟม” ลักษณะพิเศษคือพื้นผิวของเตียงจะปรับให้รองรับตามสัดส่วนและน้ำหนักของผู้นอน

    - หรือหากมีคู่ครอง ก็ขอแนะนำเป็นฟูกเตียงแบบ “พ๊อคเก็ตสปริง” ที่มีลักษณะพิเศษตรงที่เตียงฝั่งคู่นอนจะไม่ขยับหรือสั่นในเวลาที่เราหรือคู่นอนลุกไปเข้าห้องน้ำ หรือตื่นไปทำงาน

    ราคาของฟูกนอนทั้ง 3 แบบแตกต่างกันไปตามคุณภาพ ช่วงราคาของฟูกนอนที่แนะนำคือระดับคุณภาพปารกลาง ช่วงราคาประมาณ 15,000 – 18,000 บาท

    รวมงบค่าเตียงนอนพร้อมฟูกที่ TOOKTEE ในระดับห้องในฝันอยู่ทีประมาณ 30,000 บาท

    ตู้เสื้อผ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่คุณผู้หญิงทุกคนชื่นชอบและใฝ่ฝัน ตู้เสื้อผ้าที่มักใช้กันแบ่งตามลักษณะติดตั้งเป็น 2 ประเภท คือ แบบบิวท์อิน และตู้เสื้อผ้าแบบสำเร็จรูป ซึ่งตู้แบบบิวท์อินย่อมแพงกว่าเพราะเป็นเหมือนการสั่งทำพิเศษให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งานกับและพื้นที่ห้อง

    หากต้องการตู้เสื้อผ้าสวยๆตามที่ฝันเอาไว้ และตัวตู้สูงจรดเพดานไม่ทิ้งช่องว่างที่ดูไม่ดีระหว่างตู้กับเพดานก็ขอแนะนำให้เลือกตู้แบบบิวท์อิน แต่ก็ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่ตามมา

    วัสดุที้ใช้ในการทำตู้บิวท์อินมักเป็นไม่ที่เรียกว่า “เอ็มดีเอฟ” (MDF ทำจากฝุ่นไม้ที่นำอัดกันด้วยความร้อน) ที่มีความแข็งและราคาไม่แพงจนเกินไป

    ตู้เสื้อผ้าที่เป็นแบบ Build-in ราคาจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และจะคำนวณราคาคร่าว ๆ เป็นตารางเมตร เฉลี่ย จะอยู่ที่ประมาณตารางเมตรละ 15,000 – 20,000 บาท

    ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัสดุไม้ที่ใช้และขนาดของตู้ หากเรียงราคาวัสดุจากน้อยไปมาก คือไม้ปาติเกิล ไม้เอ็มดีเอฟ ไม้อัด และไม้จริง

    ตู้เสื้อผ้าที่ TOOKTEE ขอแนะนำให้เลือกตู้เสื้อผ้าที่ทำด้วย “ไม้เอ็มดีเอฟ” เพราะตู้เสื้อผ้าต้องผ่านการเปิดปิดบ่อยๆ ต้องใช้ไม้ที่มีความแข็งรองรับการกระแทก ซึ่งตู้เสื้อผ้าที่ทำด้วย ไม้เอ็มดีเอฟ ราคาจะอยู่ที่ 3,000 บาท ขึ้นไปสำหรับตู้ขนาด 70 ซม.

    ตู้เสื้อผ้าแบบสำเร็จรูปจะมีราคาแตกต่างกันไปตามขนาดของตู้เสื้อผ้า มีตั้งแต่ขนาดความกว้าง 80 ซม. (บานเปิด 2 บาน) ไปจนถึง 225 ซม. (5 บาน) ในการเลือกซื้อผู้ซื้อควรวัดพื้นที่ที่จะนำไปตั้งให้แน่นอนเสียก่อน โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อคอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัด

    TOOKTEE ขอแนะนำว่าหากไม่เน้นความสวยงามมากนัก ขอแนะนำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบสำเร็จรูปที่มีการออกแบบมาเป็นชุดสามารถวางต่อกันได้สวยงาม ซึ่งราคาจะถูกกว่าตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน ตู้เสื้อผ้าแบบสำเร็จรูปเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาเป็นเซ็ตที่มีรูปลักษณ์และสไตล์คล้ายกันหลายขนาด สามารถเลือกได้ว่าต้องการตู้ที่มีช่องภายในแบบไหนวางไว้ตรงส่วนไหน มีประตู้ปิดหรือไม และนำไปเลียงต่อกันอย่างสวยงาม เช่น สามารถวางตู้บานเปิด 2 บาน (93 ซม.) ไว้คู่กับตู้แบบบานเปิด 4 บาน (185 ซม.) เพื่อให้พอดีกับฝั่งผนังด้านใดด้านหนึ่งพื้นที่ 278 ซม. ได้

    โต๊ะเครื่องแป้ง เฟอร์นิเจอร์ที่ขาดไม่ได้อีกชิ้นหนึ่งสำหรับสาวๆมนุษย์เงินเดือน ราคาของโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ที่ประมาณชุดละ 5,000 –6,000 บาท หากซื้อเป็นชุด แต่หากสาว ๆ คิดว่าดีไซน์ที่เจอในร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเหล่านี้ยังไม่สวย หรือราคายังไม่โดนใจ สาวๆก็สามารถเลือกซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ แยกมาตกแต่งตามที่ต้องการได้ เริ่มจาก โต๊ะที่จะนำมาจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งนั้นจะต้องมีลักษณะสำคัญอยู่ 2 อย่างคือ มีลิ้นชักหรือที่ใส่อุปกรณ์แต่งหน้า และด้านบนของโต๊ะอยากแนะนำให้ใช้เป็นกระจก เพราะว่าโต๊ะเครื่องแป้งจะถูกวางเรียงรายไปด้วยอุปกรณ์แต่งหน้าทำผมเยอะแยะมากมาย และต้องหยิบจับลากถูกับตัวโต๊ะอยู่ทุกวัน TOOKTEE จึงขอแนะนำให้ใช้เป็นโต๊ะทีใช้กระจกเป็นวัสดุด้านบน อาจหาซื้อได้อยากนิดหน่อย แต่ถ้าหากหาไม่ได้จริงๆ สามารถซื้อเป็นโต๊ะทั่วไป แต่ควรเลือกโต๊ะที่มีเพียงความสูงพอดีไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป แล้วค่อยสั่งตัดกระจกแยกมาจากร้านกระจก เพื่อนำไปวางทับด้านบน ราคาค่ากระจกอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 บาท สตูลเป็นเก้าอี้ที่ใช้ร่วมกับโต๊ะเครื่องแป้ง โดยควรเน้นการเลือกระดับความสูงให้เหมาะสมกับโต๊ะ สตูลเป็นเก้าอี้ไม่มีพนักพิง และมีน้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายได้ง่าย และ TOOKTEE ขอแนะนำให้หาเป็นสตูลที่สามารถเปิดฝาเก้าอี้เพื่อเก็บของภายในได้จะได้เป็นพื้นที่เก็บเครื่องสำอาง เครื่องประดับของคุณผู้หญิง ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาท มนุษย์เงินเดือน รวมไปถึงทุกคนในโลกตอนนี้มีนิสัยในการชาร์จแบทมือถือไว้ข้างเตียงก่อนนอน ดังนั้นอีกอุปกรณ์ที่สำคัญคือโต๊ะข้างเตียงที่มีเอาไว้วางมือถือที่กำลังชาร์จของเรา บวกกับวางโคมไฟเก๋ๆสักอัน ราคาของโต๊ะข้างเตียง อยู่ที่ประมาณ 1,000-1,500 บาท โดยแนะนำให้เป็นโต๊ะที่มีลิ้นชักอย่างน้อยหนึ่งอัน เอาไว้เก็บหนังสือหรือสิ่งที่เราพกไว้ติดตัวตลอดเวลาเช่น เครื่องประดับหรือหูฟังสักอันที่เราอยากจะปลดเปลื้องก่อนพาตัวเองเข้าไปในผ้าห่มอุ่นๆ

    โต๊ะข้างเตียงมีราคาที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและ ดีไซน์ แต่ TOOKTEE ไม่แนะนำให้ปันงบไปไว้ในส่วนนี้มากนัก เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ TOOKTEE จึงแนะนำเป็นช่วงราคาต่ำสุดที่แนะนำราคาเดียว คือ ประมาณ 1,500 บาท หากคุณผู้อ่านเป็นผู้ที่ติดการนอนโดยมีแสงไปหรี่ ๆ เปิดเอาไว้ ก็ควรมีโคมไฟคิดห้องเอาไว้ ราคาประมาณ 1,000 บาทต่อชิ้น

    โทรทัศน์ ไม่ค่อยจำเป็นในห้องนอน แต่หากเป็นผู้ที่ซื้อคอนโดที่มีแบบห้องเป็นแบบ สตูดิโอ โทรทัศน์ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ราคาของโทรทัศน์ขึ้นอยู่กับขนาดหน้าจอและแบรนด์ โดย TOOKTEE ขอแนะนำให้พิจารณาจากระยะห่างของที่นั่งหรือนอนดูกับตัวโทรทัศน์ หากระยะห่างไม่เกิน 3 เมตร ก็ขอแนะนำเป็นโทรทัศน์ขนาดหน้าจอประมาณ 40 นิ้ว ซึ่งราคาที่แนะนำอยู่ที่ประมาณ 6,000 – 8,000 บาท ไม่แนะนำให้ใช้โทรทัศน์ราคาถูกจนเกินไป เพราะจะเกิดปัญหาขึ้นบ่อยและใช้ได้ไม่นาน แนะนำเป็น Smart TV

    ราคาที่ TOOKTEE แนะนำเป็นเพียงราคาโดยประมาณให้ผู้อ่านสามารถนำไปคำนวณงบที่ต้องใช้เวลาซื้อบ้านซื้อคอนโด ซึ่งบทความนี้เป็นแค่ 1 ใน 4 ของบทความชุดที่ชื่อว่า คู่มือจัดงบแต่งบ้านฉบับมนุษย์เงินเดือน ซึ่งบทความต่อไปจะพูดถึงห้องนั่งเล่น หากสนใจโปรดติดตามเราที่

    Author

    Leave a Reply